ดอกไม้ไฟริมทะเล

ปีนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน อากาศเรื่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ พออากาศร้อนแบบนี้มักมีคนญี่ปุ่นมาถามฉันว่า ร้อนไหม
เมื่อตอบไปว่า ร้อน คนที่ถามก็จะทำหน้าตกใจ ไหนบอกว่าเป็นคนไทย (ที่แสนจะทนทานเรื่องความร้อน) ทำไมถึงตอบว่า ร้อนล่ะ
อยากบอกว่า ถึงแม้จะทนความร้อนได้ดี แต่อากาศร้อนขนาดนี้ ก็ต้องบอกว่าร้อนนะ

เมื่อเข้าเดือนกรกฎาคม สาเหตุของอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างดุเดือดก็ถูกเฉลยออกมา เมื่อมีข่าวประกาศออกมาว่า ช่วงนี้มีคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ทำให้อุณหภูมิในหลายๆ จังหวัดในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 35 องศา บางจังหวัดอย่างเกียวโต ร้อนถึง 41 องศา ทุบสถิติความร้อนเดิมๆ

ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนในครั้งนี้ ทำให้ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นปีนี้ร้อนมากกว่าปีก่อนๆ การฝันถึงการเล่นน้ำทะเลในฤดูร้อน มีอันต้องพับโครงการทิ้งไป ถ้าไปเล่นน้ำริมหาดตอนกลางวันกลางแดดเปรี้ยงแบบนี้ คงเป็นลมแดดไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
เมื่อตอนกลางวันร้อนเกินกว่าจะไปเล่นน้ำริมทะเลได้ แต่ก็ยังอยากจะไปเที่ยวทะเลอยู่ต้องทำเช่นไร งั้นเราไปดูดอกไม้ไฟริมทะเลตอนกลางคืนกัน

ถ้าพูดถึงฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น นอกจากการเล่นน้ำริมทะเลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มาคู่กันคือ เทศกาลดอกไม้ไฟ ที่ญี่ปุ่นนิยมจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟใกล้กับแหล่งน้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ หรือทะเล

ที่จังหวัดซากะมีพื้นที่ติดอยู่ติดกับทะเลสองฝั่ง และเป็นทะเลที่บรรยากาศแตกต่างกัน

ฝั่งอำเภอคะระทสึ ติดกับทะเลที่มีชื่อว่าทะเลนาดะ เป็นทะเลน้ำลึก อีกฝั่งหนึ่งด้านอำเภอคะชิมะ อำเภอทาระ ติดกับทะเลอาริอาเกะ ซึ่งเป็นทะเลโคลน ที่มีน้ำขึ้นน้ำลงแตกต่างกันถึง 6 กิโลเมตร

ทะเลที่จังหวัดซากะ ทั้งสองฝั่งทะเล มีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่ จุดกันเป็นชั่วโมงหลายพันหลายหมื่นนัด สวยงามตระการตา

ปีแรกที่ย้ายมาอยู่ที่ซากะ ตอนที่บ้านเรายังไม่มีรถขับ แต่ตอนที่คะระทสึมีงานเทศกาลดอกไม้ไฟ เราก็มีความพยายามในการดั้นด้นไป โดยจองโรงแรมไว้หนึ่งคืน แล้วนั่งรถไฟไปดูที่คะระทสึ

คืนนั้นฝนจะตกจนต้องกางร่มดูดอกไม้ไฟ เมฆบนท้องฟ้ากระทบกับแสงหลากสีของดอกไม้ไฟ เปลี่ยนบรรยากาศท้องฟ้าและบรรยากาศรอบตัวให้อาบๆ ด้วยแสงดอกไม้ไฟ ร่างคนที่ใส่ชุดยูกาตะกางร่มยืนดูดอกไม้ไฟรายเรียงเป็นกลุ่มๆ อยู่ริมหาด กระทบแสงดอกไม้ไฟ เปลี่ยนเป็นสีแดง สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง ดูแปลกตา บรรยากาศเหมือนอยู่ในภาพยนตร์สายเซอร์เรียลย้อนยุค

ปีนี้ได้ไปดูดอกไม้ไฟที่อำเภอทาระ ริมฝั่งทะเลอาริอาเกะ แม้ครั้งนี้จะมีรถแล้ว แต่ก็สรุปกันว่าขอจองโรงแรมไว้ที่อำเภอทาระหนึ่งคืน
คืนนั้นเป็นวันเพ็ญ ฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆ
ลองนึกภาพท้องฟ้าตอนกลางคืนที่มีพระจันทร์ดวงโตเต็มดวงลอยเด่นสะท้อนแสงจันทร์ลงบนพื้นน้ำทะเลแข่งกับ ดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ หลากสี เปล่งสีเหลืองทอง สีเขียว สีส้ม เปล่งแสง เห็นรูปร่างชัดเจน จุดพุ่งขึ้นไป บนท้องฟ้าและพื้นน้ำ ยามค่ำคืน เวลาหนึ่งชั่วโมงที่นั่งดูดอกไม้ไฟดูยาวนานจนเหมือนไม่สิ้นสุด บรรยากาศรอบตัวงดงามจนไม่แน่ใจว่ายังตื่นอยู่หรือกำลังอยู่ในฝันที่ฝันเห็นเทศกาลดอกไม้ไฟริมทะเลอาริอาเกะ



หน่อย
เกิดที่กรุงเทพฯ
ตอนนี้อาศัยอยู่กับสามีชาวญี่ปุ่นและลูกน้อยที่วาคะคิ อำเภอทาเคโอะ จังหวัดซากะ
ตอนอยู่ที่เมืองไทย เคยทำงานเกี่ยวกับงานศิลปะและสื่อสิ่งพิมพ์
ตอนนี้มาอยู่คิวชูมี ใบอนุญาติสำหรับทำงานมัคคุเทศก์ภาษาไทยสำหรับนำเที่ยวในเกาะคิวชู