“Yutoku Inari Shrine” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละครต่างๆ ด้วย

ทางฝั่งทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของทะเลอาริอาเกะที่มีระดับน้ำขึ้นน้ำลงต่างกันถึง 6 เมตร และทางฝั่งทิศตะวันตกมีเมืองคาชิมะ เมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทาระ ภายในเมืองมีโรงทำสาเกถึง 6 แห่ง เป็น “เมืองแห่งการทำสาเก” ที่เพียบพร้อมไปด้วยข้าวและน้ำที่ใสสะอาดเหมาะสำหรับทำสาเกเป็นอย่างยิ่ง
ในปีค.ศ.2011 โรงทำสาเก FUKUCHIYO SAKE BREWER COMPANY ที่ผลิตสาเก “Nabeshima” ได้รับรางวัล “Champion Sake” จาก International Wine Challenge (IWC) ในส่วนของสาเกญี่ปุ่นและสาเกประเภทไดกินโจ ทำให้จังหวัดซากะเป็นที่รู้จักในเรื่องของสาเกเพิ่มมากขึ้น และที่เมืองคาชิมะนี้เอง ที่มีศาลเจ้าที่ชื่อว่า “Yutoku Inari Shrine” ซึ่งจะครบรอบ 330 ปีในปีนี้


“Yutoku Inari Shrine” 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

Yutoku Inari Shrine เป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ว่ากันว่าในปี ค.ศ. 1662
ตอนที่ Mankohime Kazanin ภรรยาของ Naomoto Nabeshima ผู้ครองบิเซะคาชิมะฮัง(ฮัง คือ คำเรียกจังหวัดในอดีต) กำลังจะแต่งงานย้ายเข้ามาอยู่กับสามี พ่อของเธอได้มอบพลังส่วนหนึ่งของเทพเจ้าอินาริให้กับเธอ และ Naomoto Nabeshima ก็ได้สร้างศาลเจ้านี้ขึ้นมา เธอจึงนำพลังที่ได้มานั้นไว้ที่ศาลเจ้านี้ ทำให้ศาลเจ้านี้ช่วยในเรื่องต่างๆ เช่น ช่วยให้กิจการค้าขายรุ่งเรือง ช่วยให้ครอบครัวเจริญรุ่งเรือง ช่วยให้ชาวประมงจับปลาได้จำนวนมาก ช่วยให้เดินทางปลอดภัย ช่วยเรื่องเนื้อคู่หรือให้สมหวังในความรัก เป็นต้น ในแต่ละปีมีผู้คนแวะเวียนมาขอพรที่นี่กว่า 3,000,000 คน
หากขับรถไปตามป้ายบอกทางเรื่อยๆ ก็จะพบกับลานจอดรถของศาลเจ้า ซึ่งสิ่งแรกที่ทุกคนจะเห็นคือ ภาพศาลเจ้าสีแดงสวยเด่นสูงถึง 18 เมตรที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ตัดกับสีเขียวของต้นไม้เป็นภาพที่สวยงามน่าจดจำ


สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไทยเรื่อง “Time Line” และละครไทยเรื่อง “กลกิโมโน”

ในระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ มีนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น ทาง Saga Film Commission ได้ส่งเสริมให้ใช้สถานที่ต่างๆ ในจังหวัดซากะเป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนตร์ ซึ่งทันทีที่ศาลเจ้า Yutoku Inari Shrine ได้เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำเหล่านั้น ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยี่ยมชมที่นี่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงความนิยมของภาพยนตร์เรื่อง Time Line และ ละครเรื่องกลกิโมโนของไทย ทำให้มีถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน


การบริการด้วยใจนำไปสู่ความทรงจำที่แสนวิเศษของการท่องเที่ยว

เหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาที่ศาลเจ้านั้น ไม่ได้เป็นเพราะศาลเจ้าถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครหรือภาพยนตร์ จึงทำให้มีคนมาเที่ยวและกลับมาเที่ยวซ้ำอีกครั้ง เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะ “การบริการด้วยใจ” ที่ทางศาลเจ้ามีให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน Tomohisa Nabeshima ผู้ดูแลศาลเจ้า Yutoku Inari Shrine กล่าวว่า “การเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติเป็นสิ่งสำคัญ ทางศาลเจ้าจึงได้สอบถามความคิดเห็นกับนักท่องเที่ยวโดยตรง เพื่อทำให้การมาเที่ยวที่นี่เป็นทริปที่จะอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดไป ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์รองรับสัญญาณ Wi-Fi จำหน่ายเครื่องรางที่มีกลิ่นหอม ทำใบเซียมซีภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น” สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากการอยากจะให้บริการด้วยหัวใจ และยังไปจัดทำป้ายแนะนำต่างๆ ที่มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวที่นี่ได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล


“สวัสดีครับ”คำทักทายจากไกด์ที่สามารถพูดไทยได้เล็กน้อยและยันต์ของศาลเจ้าเป็นสองสิ่งที่มีเสน่ห์ไม่น้อย

ผู้ดูแลศาลเจ้าสามารถสื่อสารภาษาไทยได้เล็กน้อย จึงรับหน้าที่เป็นคนคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวประทับใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้คนที่มีความสนใจในเรื่องยันต์ของญี่ปุ่น สามารถชมการเขียนยันต์แบบสดๆ ได้ด้วย หรือจะถ่ายวิดิโอเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยก็ได้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย หากได้ลองชิมสาเก “โอมิคิ” น่าจะกลายเป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อย ช่วงนี้มีผู้คนมากมายทั้งแวะมาเที่ยว มาทำพิธีต่างๆ มาเขียนยันต์ รวมไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ใช้เวลาอยู่ที่นี่เพียง 1 – 2 ชั่วโมงก็สามารถเดินชม และเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆ รอบๆ ศาลเจ้าได้

1

2